google-site-verification: google25596c1258bc409b.html

การแพทย์ได้รับการศึกษาและพัฒนาอย่างกว้างขวางโดยมีกฎหมายควบคุมการแพทย์

โดย: จิรัฎฐ์ [IP: 5.8.16.xxx]
เมื่อ: 2023-07-21 17:50:59
ในสมัยอยุธยา (พ.ศ. 2393-2310) การแพทย์ได้รับการศึกษาและพัฒนาอย่างกว้างขวางโดยมีกฎหมายควบคุมการแพทย์ มีบันทึกของโรคระบาดที่คร่าชีวิตประชากรส่วนใหญ่ แต่ผู้คนก็สามารถกำจัดโรคนี้ได้ในที่สุด ผู้รอดชีวิตได้รับการรักษาให้กลับมาแข็งแรงโดยไม่ต้องละทิ้งเมืองเหมือนเมื่อก่อน แสดงให้เห็นถึงความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์ของอยุธยา ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2199-2231) ซึ่งเป็นช่วงที่กรุงศรีอยุธยารุ่งเรืองในการค้าและการติดต่อกับต่างประเทศ ตำรายาของสมเด็จพระนารายณ์ได้รวบรวมความรู้ทางยาไว้ในตำราพระ   โอสถ  พระนารายณ์. ข้อความนี้ไม่เพียงแต่รวมถึงยาที่ได้จาก TTM เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความรู้ทางการแพทย์ เช่น ยาแผนตะวันตกและยาจีนด้วย ภายหลังการล่มสลายของกรุงศรีอยุธยา เมืองหลวงของอาณาจักรถูกย้ายไปที่ธนบุรีและต่อมาคือกรุงเทพฯ ในสมัยรัชกาลที่ 1 (พ.ศ. 2325-2352) ซึ่งสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงใหม่ มีการรณรงค์เพื่อรวบรวมความรู้และความเชี่ยวชาญที่สูญหายไประหว่างการล่มสลายของอาณาจักรเก่า ซึ่งรวมถึงยาด้วย เมื่อครั้งในหลวงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดโพธิ์ ยังได้โปรดเกล้าฯ ให้จารึกตำรับยาไว้ภายในกำแพงวัดด้วย สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าประชาชนจะมีพื้นที่ว่างและเปิดโล่งในการศึกษาการแพทย์สำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป ต่อมา รัชกาลที่ 3 พระราชนัดดาของพระองค์ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างภาพจิตรกรรมฝา สมุนไพรไทย ผนัง 60 ภาพ ซึ่งบันทึกการปฏิบัติการรักษา รวมทั้งการนวดไทย ตลอดจนรูปปั้น 80 รูปที่แสดงถึงการออกกำลังกายยืดเหยียด และสวนสมุนไพรและเครื่องเทศที่หายาก เพื่อสร้างขึ้นในบริเวณวัด

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 71,140